การเลี้ยงไก่ตามธรรมชาติปล่อยให้คุ้ยเขี่ยอาหารกินตามพื้นดินบ้างเพื่อให้ได้กินหญ้าขนหรือพืชผักต่างๆ
จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพยาธิในไก่ซึ่งมีหลายชนิดด้วยกัน
เป็นสาเหตุให้ไก่ผอมลง ไม่แข็งแรงเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่าย ผู้เลี้ยง ไก่ชนภาคใต้ จะต้องคอยสังเกตและระมัดระวังและรักษาเพื่อไม่ให้ร่างกายอ่อนแอ การเจริญเติบโตชะงัก ระคายเคืองจนถึงขั้นตาบอดได้
พยาธิสำคัญที่พบบ่อย ได้แก่
พยาธิไส้เดือนที่มีลักษณะกลมและสีขาวจนถึงเหลืองอ่อน มีผลให้ไก่ซึมหงอย
ร่างกายผ่ายผอมลง และท้องร่วง ไก่เล็กจะตายเนื่องจากพยาธิอุดตันลำไส้
ไก่ใหญ่จะให้ไข่น้อยลง โรคพยาธิชนิดนี้แก้ไขได้โดยใช้ยาถ่ายพยาธิชนิด
บิปเปอร์ราซินผสมน้ำดื่ม เริ่มถ่ายพยาธิให้ไก่ช่วงอายุ 6 สัปดาห์ ตามดวย 16
สัปดาห์ และ 26 สัปดาห์
วิธีป้องกันโรคพยาธิก่อนอื่นให้เริ่มจากตัว ไก่ชนภาคใต้
โดยใช้ยาถ่ายตามช่วงอายุอย่างเหมาะสมและให้วัคซีนป้องกันโรค โดยสม่ำเสมอ
ระวังการติดต่อกับไก่ตัวอื่น อาจต้องป้องกันจากผู้เลี้ยงด้วย
โดยป้องกันไม่ให้คนภายนอกเดินเข้าไปในบริเวณที่เลี้ยงไก่
เพื่อป้องกันการติดต่อของโรคเนื่องจากรองเท้าหรือเสื้อผ้าที่อาจมีไข่พยาธิปนเปื้อน
โรคพยาธินัยน์ตาไก่พบได้บ่อยเช่นกัน
มีลักษณะเป็นพยาธิตัวกลมคล้ายเส้นด้าย
พยาธิชนิดนี้จะเจริญเติบโตจากไข่เป็นตัวอ่อนอยู่ภายในแมลงสาบ
ไก่ติดโรคโดยการกินแมลงสาบที่เป็นตัวนำโรคเข้าไป
พยาธิจะเข้าไปอาศัยใต้หนังตาบริเวณหัวตาของไก่ มีผลให้ระคายเคืองตา
น้ำตาไหล ตาอักเสบเป็นหนอง ตาบวมปิดและอาจตาบอดในภายหลัง
สำหรับวิธีป้องกันโรคพยาธิชนิดนี้ ให้ใช้คลีโซล 5% โดยเปิดหนังตาขึ้น
พอเห็นตัวพยาธิแล้วหยดลงไป 1-2 หยดใช้ฆ่าพยาธิได้
หรือใช้น้ำมะเกลือดิบคั้นแทนก็ได้ เสร็จแล้วใช้น้ำสะอาดล้างตา
พร้อมกับชะล้างพยาธิที่ตายแล้วออกไป ถ้ารีบรักษาแต่เนิ่นๆ
พยาธิจะไม่ทำลายประสาทตารุนแรงเกินไป ไก่ก็จะมีอาการดีขึ้น ดวงตาค่อยๆ
กลับมามองเห็นได้ดีขึ้น
แน่นอนว่าการป้องกันได้ดีที่สุดคือการรักษาความสะอาดทั้งเล้าและบริเวณใกล้เคียงบริเวณใกล้เคียงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
พร้อมกับควบคุมสภาพแวดล้อมไม่ให้ชื้นแฉะหรือมีแหล่งน้ำสกปรกจนกลายเป็นแหล่งสะสมและที่อาศัยของแมลงสาบ
โรงเรือนที่ดีควรมีความโปร่งโล่ง อากาศถ่ายเทได้ดี
พยายามควบคุมคุณภาพของอาหารไก่ให้สะอาดสดใหม่เสมอ
ไม่ให้อาหารมากเกินไปจนล้นภาชนะซึ่งจะทำให้ไก่จิกกินตกหล่นบนพื้นทำให้ไก่จิกอาหารปนเปื้อนไข่พยาธิหรือแมลงสาบ
พร้อมกันนี้จะต้องสังเกตว่ามีไก่ตัวใดเป็นโรคพยาธิเพื่อคัดแยกไปรักษาและถ้าไก่ป่วยมากควรกำจัดทิ้งและฝังให้ลึกเพื่อป้องกันการติดต่อของโรค
อย่าทิ้งหรือฝังใกล้แหล่งน้ำซึ่งจะทำให้เชื้อโรคระบาดแพร่กระจายต่อไปได้
นอกเหนือจากพยาธิ ผู้เลี้ยงควรหมัดและไรอย่างสม่ำเสมอ
หมัดและไรมีหลายชนิด ส่วนใหญ่ดูดเลือดไก่ทำให้มีอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง
เกิดโรคโลหิตจางและตายได้ ไก่แม่พันธุ์จะให้ไก่น้อยลง
ไรแดงยังเป็นตัวแพร่โรคระบาดอย่างฝีดาษและอหิวาต์ด้วย
ต้องกำจัดหมัดและไรตามตัวไก่ด้วยกำมะถันผง น้ำมันละหุ่ง
รวมทั้งทำความสะอาดโรงเรือนที่เลี้ยงไก่ย่างสม่ำเสมอ
เพื่อกำจัดตัวอ่อนที่อาศัยอยู่ในดิน ฝังตัวอยู่ในคอก รังไข่ และสภาพแวดล้อม
หากมีการแพร่ระบาดอย่างหนักให้ติดต่อหารือกับสัตวแพทย์เพื่อช่วยควบคุมและใช้วัคซีนป้องกันโรคที่ให้ผลค่อนข้างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น